Google

วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558

Baby elephant training chiangmai

Baby elephant chiangmai แสนน่ารัก ที่พร้อมยินดีต้อนรับ นักท่องเที่ยวเช่นคุณ วันนี้กับทัวร์ช้างแสนพิเศษที่รับรองว่าคุณต้องประทับใจอย่างแน่นอน ทริปท่องเที่ยวทัวร์ช้างสุดพิเศษ เที่ยวชมชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านและช้างไทยตามสไตล์แบบธรรมชาติ คุณจะได้เจอกับ Baby elephant chiangmai ที่จะทำให้คุณประทับใจกับการมาทริปครั้งนี้อย่างแน่นอน

Elephant Chiangmai การท่องเที่ยวแบบดูการแสดงของช้างต่าง ๆ หลายที่จะมีให้เห็นแบบทั่วไป หากท่านต้องการความแปลกใหม่ของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และใกล้ชิดกับสัตว์ป่าที่มีรูปร่างขนาดใหญ่ หรือที่ทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขนานนามให้ว่าเป็นเจ้าแห่งพงไพร ที่ตัวใหญ่ดุดัน การท่องงเที่ยวที่เราจะพาทุกท่านไป Elephant Riding, Elephant Training , Elephant Chiangmai นั่น จะเป็นทริปที่ทุกท่าน ที่รักและชื่นชอบในการท่องเที่ยวและอนุรักษ์ช้างนั้น ต้องมีความหลงใหลและชื่นชอบอย่างแน่นอน เพราะท่านจะได้สัมผัสและชื่นชอบช้างไทย อย่างใกล้ชิด รับรองว่าทริปนี้ท่านจะได้ความสนุกและเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ไม่ได้ส่งเสริมให้มีการทำร้ายช้างแต่อย่างใด โดยท่านที่ต้องการท่องเที่ยวทริปนี้ไปกับเราท่านสามารถเลือก Package การท่องเที่ยวทริปนี้ได้จากใน เว็บไซต์ของเรา www.rakchangelephanttraining.com และเราขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือและร่วมท่องเที่ยวทริปนี้ไปกับเรา กับ Elephant Chiangmai และ Rak Chang Elephant training.com baby elephant training, elephant chiangmai, Elephant Training Trip, elephant chiangmai travel, baby elephant chiangmai

Elephant Trainning
 ความสำคัญของช้างไทย - ช้างเป็นสัตว์คู่บารมีของพระมหากษัตริย์ไทย ช้างเป็นสัตว์ที่ดำรงอยู่คู่กับประเทศไทยมาเป็นเวลานาน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สยามประเทศเคยใช้ธงชาติเป็นรูปช้างเผือก ชาวไทยเชื่อกันว่าช้างเผือกเป็นสัตว์คู่บารมีของพระมหากษัตริย์ ช้างเผือกจึงได้รับการยกย่องเสมือนเจ้านายชั้นเจ้าฟ้า - ช้างเป็นผู้ปกป้องเอกราชแห่งชาติไทย ประวัติศาสตร์ชาติไทยได้จารึกไว้ว่าช้างได้เข้ามามีส่วนในการปกป้องเอกราชและความเป็นชาติให้แก่ชาวไทยหลายยุคหลายสมัย ในสมัยกรุงธนบุรีพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชก็ทรงรวบรวมชายไทยให้เป็นปึกแผ่นและมั่นคงบนหลังช้างทรงพระที่นั่ง และในสมัยพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชก็ได้ทรงประกาศเอกราชและความเป็นชาติของคนไทยบนหลังช้างทรงพระที่นั่งด้วยเช่นกัน ซึ่งช้างทรงในสมเด็จพระนเรศวรนับว่าเป็นช้างไทยที่ได้รับเกียรติอันสูงสุด โดยจากความกล้าหาญในสมรภูมิรบ ทำให้ช้างไทยเชือกนี้ได้รับพระราชทานยศให้เป็นถึง "เจ้าพระยาปราบหงสาวดี" - ช้างใช้ในพระราชพิธีสำคัญต่างๆ การสร้างสรรค์วัฒนธรรมที่ดีงามของชาติไทยในอดีตกาลนั้นล้วนแต่ได้ช้างเข้ามามีส่วนร่วมอยู่ด้วยทั้งสิ้น เมื่อประมาณ 200 กว่าปีที่ผ่านมา ก็ได้ช้างเข้ามาเป็นแรงงานสำคัญอีกเช่นกัน เมื่อแรกเริ่มการตั้งกรุงรัตนโกสินทร์นั้นช้างคือพาหนะสำคัญที่อัญเชิญพระพุทธมณีรัตนปฏิมากรแก้วมรกตมาสถิตย์ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม นอกจากนี้ในงานพระราชพิธีต่างๆ อาทิ พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา งานพระราชพิธีฉัตรมงคล หรือในงานพระราชทานงานเลี้ยงเพื่อเป็นเกียรติแก่พระราชอาคันตุกะหรือประมุขของต่างประเทศที่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท จะต้องนำช้างเผือกแต่งเครื่องคชาภรณ์ไปยืนที่แท่นเกยช้างด้านตะวันตกของพระที่นั่งดุสิตาภิรมย์ในพระบรมมหาราชวังเพื่อประกอบพระเกียรติยศ - ช้างสร้างความสัมพันธ์ไมตรีระหว่างประเทศ ในสมัยรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสสิงคโปร์ และเบตาเวีย (จาการ์ตา) ประเทศอินโดนีเซีย ได้พระราชทานช้างสำริดให้แก่ทั้ง 2 ประเทศนี้ - ช้างใช้เป็นพาหนะในการคมนาคม ในยุคสมัยที่การคมนาคมยังไม่เจริญเทียบเท่ากับในปัจจุบัน มนุษย์ยังไม่ได้มีการพัฒนาเครื่องจักรต่างๆ สำหรับนำมาใช้เป็นเครื่องทุ่นแรงเพื่อการขนส่งของ ช้างคือพาหนะที่ดีและมีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับมนุษย์ เนื่องจากช้างเป็นสัตว์ใหญ่มีความเฉลียวฉลาดและมีพละกำลังมหาศาล ช้างจึงสามารถขนส่งสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ในปริมาณมากได้อย่างอดทน - ช้างใช้ในการอุตสาหกรรมทำไม้ การใช้ช้างทำไม้ในประเทศไทยเริ่มตั้งแต่การล้มไม้ การทอนไม้ซุง การขนส่งไม้จนถึงโรงงานหรือตลาดการค้า ในแง่ของการอนุรักษ์ป่าไม้ และระบบการจัดการป่าไม้ในประเทศไทย การใช้ช้างชักลากไม้ นับว่าเหมาะสมมาก เพราะช้างสามารถเดินไปได้โดยไม่ทำลายกล้าไม้ต้นเล็กๆ ไม่ทำให้ดินแน่น ไม่ต้องตัดถนนหนทางให้มากเส้น นอกจากนี้ช้างยังขึ้นเขาได้ดี และมีอายุการใช้งานนานถึง 50 ปี ในปัจจุบัเมื่อมนุษย์ได้มีการพัฒนาเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ความนิยมในการใช้แรงงานจากช้างจึงค่อยๆ ลดลง แต่ช้างก็ยังคงเป็นสัตว์ที่คนไทยทั้งชาติให้ความสำคัญเสมอดังนั้นรัฐบาลไทยจึงได้กำหนดให้ช้างเผือกเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของชาติ โดยกำหนดให้ทุกวันที่ 13 มีนาคมของทุกปีเป็นวันช้างไทย 

ความสำคัญของช้างต่อประวัติศาสตร์ชาติไทย ข้อความที่ปรากฎอยู่ในศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่หนึ่งเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าในสมัยที่กรุงสุโขทัยเป็นราชธานีนั้น "ช้าง" คือขุนพลที่ร่วมรบอยู่ในสมรภูมิจนมีชัยชนะ อีกทั้งพระมหากษัตริย์ทรงประทับช้างนำราษฎรไปบำเพ็ญกุศลตามพระอารามในอรัญญิก จะเห็นได้ว่าทั้งในยามศึกและยามสงบช้างอยู่คู่แผ่นดินสุโขทัยเรื่อยมา ช้างมีความสำคัญมากถึงเพียงนี้ จึงมีการสอนวิชาขับขี่ช้างซึ่งเป็นวิชาสำคัญสำหรับเจ้านายและลูกผู้ดีเพื่อยังประโยชน์ในการใช้ช้างเป็นพาหนะและเตรียมการเพื่อศึกสงคราม ช้างใช้ในการศึกสงครามในอดีต ในสมัยโบราณ ช้างเป็นยุทธปัจจัยสำคัญของกองทัพเปรียบได้กับรถถังประจัญบานของนักรบในปัจจุบัน ทว่าชัยชนะที่ได้รับนั้นจะดูสง่างามกว่าหลายเท่า เพราะมนุษย์ที่นั่งอยู่บนคอช้างต้องเชี่ยวชาญอาวุธของ้าว ใช้ความกล้าหาญไสช้างแต่ละเชือกพุ่งตรงเข้ารบปะทะกันตัวต่อตัว ช้างต่อช้างเข้าชนกันนั้น หากช้างของผู้ใดมีความสามารถมากกว่าก็จะงัดช้างศัตรูขึ้นด้วยงาจนแหงนหงาย หรือเบนบ่ายจนได้ที เพื่อให้แม่ทัพบนคอช้างส่งอาวุธเข้าจ้วงฟันคู่ต่อสู้ ช้างกับนักรบบนคอช้างจึงต้องมีกำลังแข็งแรงฝีมือเข้มแข็ง ทั้งคู่จึงจะได้ชัยชนะมาประดับเป็นเกียรติยศพระเจ้าแผ่นดิน การรบบนช้างหรือที่เรียกว่า ยุทธหัตถี นั้น เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในประวัติศาสตร์ไทย แต่ครั้งสำคัญที่สุด ซึ่งคนไทยยังกล่าวขวัญจดจำไม่รู้ลืม คือ การยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยาและพระมหาอุปราชาแห่งหงสาวดี ที่ตำบลหนองสาหร่าย แขวงเมืองสุพรรณบุรี เมื่อปีพุทธศักราช 2135 หรือกว่า 400 ปีล่วงมาแล้ว 

Baby elephant chiangmai
ที่มาของวันช้างไทย เกิดจากการริเริ่มของคณะอนุกรรมการประสานงานการอนุรักษ์ช้างไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานประสานงานองค์กรภาครัฐและเอกชนที่ทำงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์ช้างไทย ของคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเล็งเห็นว่าหากมีการสถาปนาวันช้างไทยขึ้น ก็จะช่วยให้ประชาชนคนไทยหันมาสนใจช้าง รักช้าง หวงแหนช้าง ตลอดจนให้ความสำคัญต่อการให้ความช่วยเหลืออนุรักษ์ช้างมากขึ้น คณะอนุกรรมการฯ จึงได้พิจารณาหาวันที่เหมาะสม ซึ่งครั้งแรกได้พิจารณาเอาวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทำยุทธหัตถี มีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชา แต่วันดังกล่าวถูกนำมาใช้เป็นวันกองทัพไทยไปแล้ว จึงได้พิจารณาวันอื่น และเห็นว่าวันที่ 13 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่คณะกรรมการคัดเลือกสัตว์ประจำชาติ มีมติให้ช้างเผือกเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยนั้นมีความเหมาะสม จึงได้นำเสนอมติตามลำดับขั้นเข้าสู่คณะรัฐมนตรี โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อีกทางหนึ่ง ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อ วันที่ 26 พฤษภาคม 2541 เห็นชอบให้วันที่ 13 มีนาคม เป็นวันช้างไทย และได้ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2541 ผลจากการที่ประเทศไทยมีวันช้างไทยเกิดขึ้น นับเป็นการยกย่องให้เกียรติว่าเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญอีกครั้ง นอกเหนือจากเกียรติที่ช้างเคยได้รับในอดีต ไม่ว่าจะเป็นช้างเผือกในธงชาติ หรือช้างเผือกที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ หรือสัตว์คู่พระบารมี ของพระมหากษัตริย์ไทย


ทัวร์รักช้างของเรา เป็นทัวร์พิเศษที่ไม่เหมือนใคร ทัวร์ของเราจะเน้น การท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ที่จะมีช้างเป็นเพื่อนระหว่างทริป คุณจะได้เห็นวิถีชีวิต แบบธรรมชาติระหว่างชาวบ้านและช้างไทย ที่จะอนุรักษ์ และอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว เราถือว่าช้างเป็นสัตว์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองของไทยเรามาแต่ช้านาน คุณจะได้สัมผัส ช้างแบบใกล้ชิด พิเศษสุดๆ คุณจะได้เห็น Baby elephant chiangmai ที่แสนน่ารัก แสนรู้ที่จะคอยต้อนรับคุณในทริปนี้อย่างแน่นอน Baby elephant chiangmai ท่านจะได้พบกับวิถีชีวิตการใช้ชีวิต ที่แปลกใหม่แหวกแนว ไม่เหมือนใครด้วยวิถีชีวิตแบบคนโบราณที่ใช้ชีวิตกับเจ้าแห่งขุขเขาป่าดงพงไพร สัตว์ที่มีขนาใหญ่ สัวต์ที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกับ ผืนแผ่นดินไทยมาอย่างยาวนานเป็นที่กล่าวขาน ขนานนามไปทั่วภูมิภาค ท่านจะได้สัมผัสกับบรรดาเหล่าช้างน้อย ลูกช้าง ที่กำลังซุกซน แสดงความน่ารักต่าง ๆ ซึ่งจะได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้แบบใกล้ชิด ทว่าเสมือนคนเลี้ยงช้างฝึกช้าง ให้อาหาร พาไปว่ายน้ำ บรรยากาศแบบนี้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว How to train Baby elephant chiangmai ทริปที่เราจะพาทุกท่านไป นั่น จะเป็นทริปที่ทุกท่าน ที่รักและชื่นชอบในการท่องเที่ยวและอนุรักษ์ช้างนั้น ต้องมีความหลงใหลและชื่นชอบอย่างแน่นอน เพราะท่านจะได้สัมผัสและชื่นชอบช้างไทย อย่างใกล้ชิด รับรองว่าทริปนี้ท่านจะได้ความสนุกและเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ทำให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์กับอนุรักษ์สัตว์ป่า อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมป่าไม้ต้นน้ำลำธาร ให้คงอยู่ต่อไป
Baby elephant chiangmai



 CONTACT US Rak Chang Elephant Training Address : 27 Sanambinkao Suthep Muang Chiangmai 50200 Tel : 053-272087 ,091-0766254 ,086-9126463

วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เที่ยวเชียงใหม่ 4 ถนนคนเดินเชียงใหม่

4 ถนนคนเดินเชียงใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตปี 2015 เที่ยวเชียงใหม่ สัมผัสบรรยากาศกลิ่นอายเอกลักษณ์ประเพณีวัฒนธรรมของ อาณาจักรล้านนา

ถ้ากล่าวถึงเชียงใหม่ใครต่อใครก็คงนึกถึงเมืองเหนือที่ประกอบไปด้วยวัฒนธรรมประเพณีอันเป็เอกลักษณ์ของชาวล้านนา สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ ที่มีอยู่อย่างมากมาย เที่ยวเชียงใหม่ ครั้งเดียวไม่สามารถเที่ยวได้ทั่วถึง ต้องมากันหลาย ๆ รอบ หรือพักกันอยู่แบบยาว ๆ กันเลย ขนบธรรมเนียมประเพณีที่แตกต่าง ภาษาพูดที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก ที่คนพื้นบ้านสื่อสารออกกับผู้มาเยือนได้อย่างไพเราะเสนาะหู หรืออาหารการกินที่มีความอร่อย ของกินเชียงใหม่ งานหัตถกรรม งานฝีมือต่าง ๆ ที่มีการทำขึ้นมาด้วยความประณีต หัตถกรรมพื้นบ้านที่สืบทอดกันมายาวนาน 10 สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ เหล่านี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ ของการ เที่ยวเชียงใหม่ ในปี 2015

- ถนนคนเดินท่าแพ

ถนนคนเดินท่าแพ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง อาทิตย์ เทศบาลเชียงใหม่ จะปิดถนนส่วนหนึ่งในเชียงใหม่ เพื่อให้ชาวบ้านนำสินค้าหัตถกรรมมาวางขาย ถนนคนเดินที่นี่ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักท่องเที่ยวชาวไทยจากทุกภาคและ ชาวต่างประเทศหลากหลายภาษาทั้งยุโรป เอเชีย ถนนคนเดินท่าแพ อยู่บริเวณประตูเมืองท่าแพต่อไปยังถนนราชดำเนิน เปิดเฉพาะวันอาทิตย์ เวลาประมาณ 17.00 - 22.00 น. เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าขนาดใหญ่ มีสินค้าให้เลือกสรรมากมายหลากหลายประเภท ทั้งสินค้าทางวัฒนธรรม เช่น สินค้าพื้นเมือง จำพวกเครื่องประดับตกแต่ง เสื้อผ้า ของที่ระลึก กระเป๋า ผ้าพันคอ โคมไฟ ฯลฯ หรือจะเป็นสินค้าแฟชั่นก็มีให้เห็นอยู่โดยทั่วไป รวมทั้งของกิน เช่น ขนมจีนน้ำเงี้ยว/น้ำยา ของทานเล่น โรตี ฯลฯ หากมาเยือนในช่วงอากาศหนาว ๆ เดินเที่ยวกาดกลางคืน ถนนคนเดินเชียงใหม่ก็เพลิดเพลินไปอีกแบบหนึ่ง ซึ่งที่นี่เป็นถนนคนเดินที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่และได้รับความสนใจอย่างมาก จากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

- ถนนคนเดินวัวลาย

ถนนคนเดินวัวลาย ถนนคนเดินเชียงใหม่วัวลายเป็นเป็นถนนคนเดินยอดฮิตมากที่สุดแห่งหนึ่งของคนเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวที่ขึ้นมารเชียงใหม่หากไม่สามารถเดินถนนคนเดินท่าแพใน วันอาทิตย์ก็มักจะมาเดินที่ถนนคนเดินวัวลายนี้ ถนนคนเดินวัวลายจะเปิดเฉพาะคืนวันเสาร์โดยจะทำการปิดถนนวัวลายที่ อยู่ใกล้กับประตูเมืองเชียงใหม่ มีความยาวเป็นหลักกิโลทำให้กว่าจะเดินไปกลับครบก็เมื่อยพอดู ถึงกระนั้นก็ตามถนนคนเดินนี้ก็เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นเข้ามา จับจ่ายซื้อของกินรวมถึงซื้อของที่ระลึกต่างๆ ถนนคนเดินเชียงใหม่วัวลายมีชื่อเสียงในเรื่องของเครื่องเงินสลักลวดลายซึ่ง รู้จักกันดีในชื่อของ เครื่องเงินวัวลาย นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสได้เห็นการสลักเครื่องเงินกันแบบสดๆริมทาง ซึ่งเมื่อมองย้อนอดีตไปจากหลักฐานเครื่องเงินวัวลายเริ่มต้นจากการสืบทอดมา ตั้งแต่ครั้งที่เชียงใหม่ได้ขอเจรจาช่างฝีมือมาจากทางพุกาม ประเทศพม่า และมีการสืบทอดกันเรื่อยมา โดยเฉพาะเครื่องเงินของบ้านศรีสุพรรณซึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณวัดศรีสุพรรณ(วัด เงิน) เป็นช่างในคุ้มหลวงเมืองเชียงใหม่ในอดีต ในสมัยนั้นเกือบทุกบ้านจะมีโรงงานขนาดเล็กประจำอยู่ที่บ้าน เรียกว่า “เตาเส่า” นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับของกินและของที่ระลึกต่างๆแล้ว ยังมีโอกาสได้เห็นการแสดงของศิลปินข้างถนนซึ่งส่วนมากจะเป็นการเล่นดนตรี ซึ่งมีทั้งดนตรีพื้นบ้าน ดนตรีจากคนตาบอด รวมถึงศิลปินวัยรุ่นที่มาเล่นเพลงต่างๆ ยิ่งถ้าช่วงหน้าหนาวการมาเดินเล่นบนถนนคนเดินเชียงใหม่วัวลายจะได้บรรยากาศ เมืองเหนือมากยิ่งขึ้นไปอีก


- กาดต้อนกอง

มีทุกวันเสาร์ช่วงเช้า ณ ชุมชนสันทรายต้นกอก ตำบลฟ้าฮ่าม มีสินค้าพื้นเมือง อาหารพื้นเมือง ผักปลอดสารพิษ ไม้ดอกไม้ประดับให้เลือกซื้อหากันได้ นอกจากนี้สามารถชมสาธิตวิธีการเลี้ยงนกกระทา และการแสดงทางวัฒนธรรมของชุมชน โดยเยาวชนท้องถิ่น กลุ่มเกษตรกร เช่น การปลูกผัก กลุ่มหัตถกรรมพื้นบ้าน เช่น กลองโบราณและ การล่องเรือชมวิถีชีวิตริมแม่น้ำปิงได้อีกด้วย “กาดต้อนกอง” เป็นรูปแบบการค้าขายสินค้าภายในชุมชนของชาวล้านนาในอดีต ที่มีพ่อค้าแม่ค้าหาบของเดินเข้ามาขายภายในหมู่บ้านก็จะพากันดักซื้อเป็นจุด ๆ เรียกว่า “ต้อนกอง” เพื่อให้คนได้ซื้อหาสินค้า และส่วนใหญ่พ่อค้าแม่ค้าก็จะอาศัยจุดพักที่หน้าวัดเป็นที่พักระหว่างการเดินทาง ภายหลังจึงก่อกำเนิดเป็นตลาดชุมชนขึ้นและได้พัฒนาขึ้นเป็น “กาดก้อม” หรือ “กาดต้อนกอง” กาดต้อนกอง ณ หมู่บ้านสันทรายต้นกอก หมู่ ๗ ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง เชียงใหม่ หมู่บ้านสันทรายต้นกอกตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อประมาณ 200 ปี มาแล้วโดยราษฎรที่เข้าอาศัยกลุ่มแรกเป็นเชื้อสายเจ้าคุ้มเวียงเชียงใหม่และชาวพื้นเมืองซึ่งเป็นชาวเขินได้อพยพมาจากบ้านเมืองลัง และบ้านหนองไคร้ มาตั้งถิ่นฐานอยู่ ณ บริเวณโดยรอบที่ตั้งของหมู่บ้านในปัจจุบัน และราษฎรเหล่านี้มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก จึงได้ร่วมกันจัดหาที่ดินและร่วมกันก่อสร้างวัดขึ้นมาเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ

- ถนนคนเดินสายหัตถกรรมสันกำแพง

เลือก ชม เลือกซื้อสินค้าหัตถกรรมของกินของฝาก ของที่ระลึก และรับชมการแสดงดนตรีโบราณของสันกำแพง ทุกวันเสาร์เวลา 15.00-22.00 น. ถนนคนเดินยางเนิ้ง อำเภอสารภี บริเวณถนนสายต้นยาง เส้นทางเชื่อมลำพูนเชียงใหม่ จัดขึ้นทุกวันเสาร์เวลาประมาณ 17.00 น. เป็นต้นไป จำหน่ายสินค้าการเกษตร อาทิ ผักปลอดสารพิษ ผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ประเภทเซรามิก เครื่องจักสาน เครื่องปั้นดินเผา ตลอดจนเสื้อผ้าสำเร็จรูป ขนม และเครื่องใช้ในครัวเรือน ถนนคนเดินสายนี้ได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ มีการจัดทางลาดและทางเดินเชื่อมส่วนใหญ่ราบเสมอกันทำให้คนที่ใช้ Wheel Chair สามารถเข้าถึงได้โดยตลอดอีกด้วย